พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
เหรียญเสมาหลวงพ...
เหรียญเสมาหลวงพ่อแช่ม งานผูกพัทธสีมา วัดตาก้อง จ.นครปฐม ปี ๒๕๓๑
เหรียญเสมาหลวงพ่อแช่ม งานผูกพัทธสีมา วัดตาก้อง จ.นครปฐม ปี ๒๕๓๑ เนื้อทองแดง พิมพ์ด้านหน้าเหมือนเหรียญเสมารุ่นแรก ใช้แทนรุ่นแรกได้ สวยๆ น่าบูชา
"หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง" เป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงอยู่ในยุคสมัยสงครามอินโดจีน และสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยนั้นท่านเดินทางร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ แทบจะทุกวัด พูดได้ว่า สมัยนั้นมีการปลุกเสกวัตถุมงคลที่ไหนๆ จะต้องมีหลวงพ่อแช่มร่วมปลุกเสกอยู่ด้วยเสมอๆ แทบจะขาดไม่ได้เลย ประวัติของหลวงพ่อแช่ม ท่านเป็นลูกศิษย์ของ "หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก" ซึ่งหลวงพ่อทาท่านนี้ก็จัดว่า เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้แก่กล้าทางกสิณ และวิทยาคมเป็นที่นับถือของคนนครปฐมแต่อดีตมาก นอกจากนี้หลวงพ่อแช่มท่านยังมีความนับถือ และชอบพอเป็นพิเศษกับ "หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว" แม้ว่าหลวงปู่บุญท่านจะมีฐานะเป็นเจ้าคณะมณฑลนครชัยศรี ส่วนหลวงพ่อแช่มเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในการปกครองดูแลของหลวงปู่บุญ และมีอาวุโสอ่อนกว่าหลวงปู่บุญหลายปี แต่หลวงปู่บุญก็ยังนับถือในคุณวิเศษของหลวงพ่อแช่ม และได้เล่าถึงอภินิหารของหลวงพ่อแช่มให้ลูกศิษย์ท่านอื่นๆ ฟังเสมอๆ เล่ากันว่า หลวงพ่อแช่มท่านเป็นพระสงฆ์ที่ค่อนข้างจะร้อนวิชาอยู่สักหน่อย ซึ่งพระสงฆ์ที่ร้อนวิชานี้เขาว่า มักจะแสดงวิชาหรือฤทธิ์ให้ชาวบ้านและลูกศิษย์เห็นอยู่เสมอๆ ตอนที่มีพิธีปลุกเสกเหรียญหล่อคันธารราษฎร์ของวัดพระปฐมเจีดย์เมื่อปี พ.ศ. 2472 หลวงพ่อแช่มก็ได้รับนิมนต์ร่วมปลุกเสกพร้อมกับพระเกจิอาจารย์อื่นๆ อีกหลายท่าน เมื่อเสร็จพิธีแล้วมีคนไปขอวัตถุมงคลจากพระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆ ที่มาร่วมปลุกเสกกัน ซึ่งหลวงพ่อแช่มก็มีคนไปขอวัตถุมงคลจากท่านเช่นกัน เล่ากันว่า พอมีคนไปขอหลวงพ่อแช่ม ท่านจะเอาวัตถุมงคลโยนเข้าไปในกองไฟที่กำลังลุกโชน จากนั้นก็เอามือล้วงหยิบวัตถุมงคลจากกองไฟ ออกมาแจกให้โดยที่ไม่มีแสดงอาการปวดแสบร้อน และมือท่านก็ไม่โดนไฟลวกไหม้ด้วย นอกจากนี้ที่เล่ากันมากคือว่า ท่านสามารถย่นระยะทางได้ สำหรับเรื่องการย่นระยะทางของหลวงพ่อแช่มเป็นเรื่องที่มีการเล่าขานกันมากทีเดียว ในส่วนของวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อแช่มท่านก็สร้างขึ้นมาหลายอย่างด้วยกั้น เช่น กุมารทองดูดรก ตะกรุด ผ้ายันต์ ฯลฯ แต่ที่วงการนิยมเล่นหากันมากก็ได้แก่ "เหรียญกงจักร" ซึ่งด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อแช่มนั่งยกมือด้านซ้ายขึ้นในกิริยาอาการของการห้ามและมีปืนยาวไขว้อยู่ด้านล่าง ส่วนด้านหลังเป็นยันต์รูปหนุมาน สำหรับเหรียญกงจักรรุ่นนี้ก็เป็นเหรียญที่วงการพระเครื่องให้ความนิยมมากเหรียญหนึ่ง ประสบการณ์ดีทางแคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอุด แต่เหรียญกงจักรรุ่นนี้มีอยู่สองบล็อกด้วยกันคือ "บล็อกหูเดียว" กับ "บล็อกสองหู" ในวงการจะให้ความนิยมเหรียญบล็อกหูเดียวสูงกว่าเล็กน้อย คือ บล็อกหูเดียว สวยๆ เล่นหากันตั้งแต่หลักพันแก่ๆ ไปจนถึงหมื่นกว่าๆ ส่วนบล็อกสองหูเล่นหากันในราวหลักพันกลางๆ ถึงหลักพันแก่ๆ วัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่มที่ท่านสร้างและปลุกเสกนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไรล้วนแต่มีประสบการณ์กับผู้ใช้อย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่ใช่เป็นเพราะว่า ท่านเก่งทางคาถาอาคมอย่างเดียว แต่ท่านยังมีอำนาจทางพลังจิตสูงด้วย เล่ากันว่า หลวงพ่อแช่มท่านสำเร็จ "กสิณ" ซึ่งผู้ใดที่สำเร็จกสิณจะสามารถแสดงฤทธิ์ได้แบบที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ในเรื่องของวิชาอาคมหรือไสยศาสตร์นี้ ถ้าหากปราศจากพลังอำนาจทางจิต การนำเอาวิชาอาคม หรือไสยศาสตร์มาใช้ก็ไม่ได้ผล แต่สำหรับผู้ที่มีพลังอำนาจจิตแล้วจะสามารถนำเอาวิชาเหล่านี้มาใช้ได้ผลเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตำราบอกเอาไว้จริงๆ ในบรรดาวัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่มก็มี "พระขุนแผนดินหน้าตะโพน" อีกอย่างหนึ่งที่เป็นของดีน่าใช้ และราคาก็ไม่แพงด้วย ราคาในการเล่นหาตามสนามทั่วๆ ไปก็อยู่แค่หลักร้อยกลางๆ ถึงหลักร้อยแก่ๆ เท่านั้นเอง แต่เมื่อดูถึงขั้นตอนของวิธีการสร้างแล้วพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มเป็นของดีที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย เหตุที่เรียกพระเครื่องพิมพ์นำหน้าว่า "พระขุนแผน" นั้น ก็เนื่องมาจากหลวงพ่อแช่มท่านสร้างพิมพ์โดยเลียนแบบมาจาก "พระขุนแผนพิมพ์พลายเดี่ยว กรุวัดบ้านกร่าง จ. สุพรรณบุรี" แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ส่วนด้านหลังเป็นยันต์คล้ายตัว "อุณาโลม" กดเป็นร่องลึก ส่วนที่เรียก "ดินหน้าตะโพน" ตามหลังก็เนื่องมาจากว่า หลวงพ่อแช่มท่านนำเอาดินที่ปิดหน้ากลองตะโพนมาสร้าง "ตะโพน" เป็นกลองชนิดหนึ่ง มีลักษณะหัวสอบ ท้ายสอบ ขึงด้วยหนังทั้งสองข้าง มีขารอง ใช้ตีด้วยฝ่ามือ ที่หนังกลองทั้งสองข้างนิยมเอาดินละเอียดกับข้าวสุกมาคลุกให้เข้าด้วยกันแล้วปิดเอาไว้ ซึ่งจะทำให้เมื่อตีแล้วมีเสียงทุ้มไพเราะน่าฟัง ในการละเล่นสมัยก่อนจะมีกลองตะโพนเป็นเครื่องดนตรีประกอบเอาไว้ด้วยเสมอๆ สมัยก่อนดินที่นำมาผสมกับข้าวสุกเพื่อปิดหนังหน้ากลองตะโพนนั้น นิยมเอาไปให้อาจารย์ที่มีความรู้ทางวิชาอาคม ผสมของดีทางเมตตามหานิยม และปลุกเสกให้โดยเชื่อกันว่า เมื่อเอาดินผสมข้าวสุกและของดีและปลุกเสกแล้วมาปิดที่หนังหน้ากลองตะโพน เวลาตีจะทำให้มีเสียงไพเราะทำให้คนได้ยินได้ฟังเกิดความหลงใหล และอยากจะดูการละเล่นนั้นๆ เล่ากันว่า สมัยก่อนเมื่อมีการละเล่นจะต้องมีการบรรเลงเครื่องดนตรีเป็นการโหมโรงก่อน เสียงจากการโหมโรงซึ่งมีเสียงกลองตะโพนประกอบอยู่ด้วยนั้น เมื่อใครได้ยินแล้วจะร้อนรุ่มอยู่บ้านไม่ได้ต้องมาดูการละเล่นนั้นๆ หลวงพ่อแช่มท่านก็มีคนมาขอให้ท่านปลุกเสกดินที่จะนำไปติดที่หน้ากลองตะโพนอยู่เสมอๆ แม้แต่กลองตะโพนใบใหญ่ของวัดตาก้อง หลวงพ่อแช่มท่านก็เอาดินชนิดนี้ไปปิดที่หน้ากลองด้วย ซึ่งกลองใบนี้ทางวัดจะใช้ตีเวลาทางวัดมีงานหรือตรงกับวันพระ พอตีแล้วเสียงกลองนี้จะได้ยินไปไกล ชาวบ้านพอได้ยินเสียงกลองก็จะพากันมาทำบุญที่วัดกันหลายๆ คน แต่ดินที่ใช้ปิดหน้ากลองตะโพนนี้ เมื่อผ่านไปหลายๆ วันก็จะแห้งและแตกหลุดออกมาจะต้องทำใหม่ปิดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านก็รู้ถึงเคล็ดลับทางเมตตามหานิยมของดินหน้าตะโพนชนิดนี้ดี ครั้นเมื่อดินหน้าตะโพนแห้งต้องทำใหม่ ท่านก็จะเก็บของเก่าสะสมเอาไว้เรื่อยๆ จนมีจำนวนมากเพียงพอแล้ว จึงนำเอาดินหน้าตะโพนนั้นมาสร้างเป็นพระเครื่องพิมพ์ขุนแผนโดยหวังอานิสงส์ทางเมตตามหานิยมเป็นหลัก เมื่อได้ดินหน้าตะโพนมาจำนวนมากเพียงพอต่อการสร้างพระเครื่องแล้ว หลวงพ่อแช่มท่านยังได้นำเอามวลสารอีกหายอย่างผสมเข้าไปด้วย ซึ่งก็มี ผงวิเศษ ว่าน ดินอุดรูปู ดินตีนท่า ดินโป่ง ฯลฯ เมื่อคลุกเคล้าเนื้อหามวลสารจนเข้ากันดีแล้ว จึงกดพิมพ์เป็นพระเครื่องโดยมีลูกศิษย์หลายคนช่วยกันกด ระหว่างนั้นก็ตกอยู่ในราว ปี พ.ศ. 2470 กว่า ๆ ว่า ไปแล้วพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มมีการสร้างก่อนเหรียญรูปเหมือนท่านตั้งหลายปี พระเครื่องชุดนี้เมื่อกดพิมพ์เสร็จแล้วก็ได้จำนวนพระเครื่องหลายองค์ คิดว่า เป็นหมื่นๆ องค์ เสร็จแล้วหลวงพ่อแช่มก็ปลุกเสกเดี่ยวก่อนนำแจก เนื่องจากจำนวนของพระเครื่องมีมาก จึงทำให้มีของเหลืออยู่ที่วัดอีกหลายปี เมื่อท่านมรณภาพไปแล้วของก็ยังเหลืออยู่ที่วัด แต่ปัจจุบันของได้กระจัดกระจายไปทั่ว หมดจากวัดนานแล้ว ลักษณะของพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มนั้น จะทำพอเป็นรูปร่าง รายละเอียดไม่ค่อยลึก และคมชัดนัก หย่อนความสวยงามไปบ้าง สีสันวรรณะออกไปทางสีเทาเข้ม ส่วนของปลอมเท่าที่เห็นจะมีขนาดเล็กกว่าของแท้ และรายละเอียดก็จะยิ่งตื้นเบลอกว่าของแท้เสียอีก สีก็ค่อนข้างจาง ถ้าได้เห็นของแท้บ่อยๆ ก็สามารถแยกความแตกต่างได้ไม่ยาก พูดถึงประสบการณ์ของพระขุนแผนดินหน้าตะโพน หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เท่าที่ได้รับฟังมาคือ ดีทางเมตตามหานิยม และมหาเสน่ห์ เป็นหลัก และตามมาด้วยแคล้วคลาดกับคงกระพัน เป็นที่หนึ่ง
...เหรียญสวยเดิม มาพร้อมบัตรรับประกันพระแท้ เช่าหาสบายใจ
ผู้เข้าชม
1740 ครั้ง
ราคา
650
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
chathanumaan
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
ร้านค้า
-
โทรศัพท์
0999309839
ไอดีไลน์
0853783943
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
744-2-522xx-x
เหรียญฉลองโบสถ์สมปรารถนาบารมี
เหรียญหลวงปู่ทวด พ่อท่านเขียว
เหรียญ หลวงพ่อเยิ้ม วัดใหม่บาง
ตะกรุดสาริกา หลวงพ่อรุ่ง วัดท่
เหรียญหลวงพ่อสงฆ์ หลังกรมหลวงช
พระผงเจริญทรัพย์ ที่ระลึกงานบุ
พระผงพิชิตมาร หลังยันต์ห้า ปี
เหรียญ เทวาพิทักษ์ หลวงปู่มหาศ
เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง ปี 16 ก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
จิ๊บพุทธะมงคล
ศิษย์บูรพา
เปียโน
jazzsiam amulet
โกหมู
ว.ศิลป์สยาม
fuchoo18
ยอด วัดโพธิ์
boonyakiat
chaithawat
Aa2244
หริด์ เก้าแสน
พรรษา
NongBoss
Nithiporn
แมวดำ99
อ้วนโนนสูง
chathanumaan
พีพีพระสมเด็จ
พีพีพระเครื่อง
ภูมิ IR
ยุ้ย พลานุภาพ
Le29Amulet
เจริญสุข
บ้านพระสมเด็จ
ก้อง วัฒนา
บ้านพระหลักร้อย
ชา วานิช
ชาวานิช
ปลั๊ก ปทุมธานี
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1553 คน
เพิ่มข้อมูล
เหรียญเสมาหลวงพ่อแช่ม งานผูกพัทธสีมา วัดตาก้อง จ.นครปฐม ปี ๒๕๓๑
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
เหรียญเสมาหลวงพ่อแช่ม งานผูกพัทธสีมา วัดตาก้อง จ.นครปฐม ปี ๒๕๓๑
รายละเอียด
เหรียญเสมาหลวงพ่อแช่ม งานผูกพัทธสีมา วัดตาก้อง จ.นครปฐม ปี ๒๕๓๑ เนื้อทองแดง พิมพ์ด้านหน้าเหมือนเหรียญเสมารุ่นแรก ใช้แทนรุ่นแรกได้ สวยๆ น่าบูชา
"หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง" เป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงอยู่ในยุคสมัยสงครามอินโดจีน และสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยนั้นท่านเดินทางร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ แทบจะทุกวัด พูดได้ว่า สมัยนั้นมีการปลุกเสกวัตถุมงคลที่ไหนๆ จะต้องมีหลวงพ่อแช่มร่วมปลุกเสกอยู่ด้วยเสมอๆ แทบจะขาดไม่ได้เลย ประวัติของหลวงพ่อแช่ม ท่านเป็นลูกศิษย์ของ "หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก" ซึ่งหลวงพ่อทาท่านนี้ก็จัดว่า เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้แก่กล้าทางกสิณ และวิทยาคมเป็นที่นับถือของคนนครปฐมแต่อดีตมาก นอกจากนี้หลวงพ่อแช่มท่านยังมีความนับถือ และชอบพอเป็นพิเศษกับ "หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว" แม้ว่าหลวงปู่บุญท่านจะมีฐานะเป็นเจ้าคณะมณฑลนครชัยศรี ส่วนหลวงพ่อแช่มเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในการปกครองดูแลของหลวงปู่บุญ และมีอาวุโสอ่อนกว่าหลวงปู่บุญหลายปี แต่หลวงปู่บุญก็ยังนับถือในคุณวิเศษของหลวงพ่อแช่ม และได้เล่าถึงอภินิหารของหลวงพ่อแช่มให้ลูกศิษย์ท่านอื่นๆ ฟังเสมอๆ เล่ากันว่า หลวงพ่อแช่มท่านเป็นพระสงฆ์ที่ค่อนข้างจะร้อนวิชาอยู่สักหน่อย ซึ่งพระสงฆ์ที่ร้อนวิชานี้เขาว่า มักจะแสดงวิชาหรือฤทธิ์ให้ชาวบ้านและลูกศิษย์เห็นอยู่เสมอๆ ตอนที่มีพิธีปลุกเสกเหรียญหล่อคันธารราษฎร์ของวัดพระปฐมเจีดย์เมื่อปี พ.ศ. 2472 หลวงพ่อแช่มก็ได้รับนิมนต์ร่วมปลุกเสกพร้อมกับพระเกจิอาจารย์อื่นๆ อีกหลายท่าน เมื่อเสร็จพิธีแล้วมีคนไปขอวัตถุมงคลจากพระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆ ที่มาร่วมปลุกเสกกัน ซึ่งหลวงพ่อแช่มก็มีคนไปขอวัตถุมงคลจากท่านเช่นกัน เล่ากันว่า พอมีคนไปขอหลวงพ่อแช่ม ท่านจะเอาวัตถุมงคลโยนเข้าไปในกองไฟที่กำลังลุกโชน จากนั้นก็เอามือล้วงหยิบวัตถุมงคลจากกองไฟ ออกมาแจกให้โดยที่ไม่มีแสดงอาการปวดแสบร้อน และมือท่านก็ไม่โดนไฟลวกไหม้ด้วย นอกจากนี้ที่เล่ากันมากคือว่า ท่านสามารถย่นระยะทางได้ สำหรับเรื่องการย่นระยะทางของหลวงพ่อแช่มเป็นเรื่องที่มีการเล่าขานกันมากทีเดียว ในส่วนของวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อแช่มท่านก็สร้างขึ้นมาหลายอย่างด้วยกั้น เช่น กุมารทองดูดรก ตะกรุด ผ้ายันต์ ฯลฯ แต่ที่วงการนิยมเล่นหากันมากก็ได้แก่ "เหรียญกงจักร" ซึ่งด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อแช่มนั่งยกมือด้านซ้ายขึ้นในกิริยาอาการของการห้ามและมีปืนยาวไขว้อยู่ด้านล่าง ส่วนด้านหลังเป็นยันต์รูปหนุมาน สำหรับเหรียญกงจักรรุ่นนี้ก็เป็นเหรียญที่วงการพระเครื่องให้ความนิยมมากเหรียญหนึ่ง ประสบการณ์ดีทางแคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอุด แต่เหรียญกงจักรรุ่นนี้มีอยู่สองบล็อกด้วยกันคือ "บล็อกหูเดียว" กับ "บล็อกสองหู" ในวงการจะให้ความนิยมเหรียญบล็อกหูเดียวสูงกว่าเล็กน้อย คือ บล็อกหูเดียว สวยๆ เล่นหากันตั้งแต่หลักพันแก่ๆ ไปจนถึงหมื่นกว่าๆ ส่วนบล็อกสองหูเล่นหากันในราวหลักพันกลางๆ ถึงหลักพันแก่ๆ วัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่มที่ท่านสร้างและปลุกเสกนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไรล้วนแต่มีประสบการณ์กับผู้ใช้อย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่ใช่เป็นเพราะว่า ท่านเก่งทางคาถาอาคมอย่างเดียว แต่ท่านยังมีอำนาจทางพลังจิตสูงด้วย เล่ากันว่า หลวงพ่อแช่มท่านสำเร็จ "กสิณ" ซึ่งผู้ใดที่สำเร็จกสิณจะสามารถแสดงฤทธิ์ได้แบบที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ในเรื่องของวิชาอาคมหรือไสยศาสตร์นี้ ถ้าหากปราศจากพลังอำนาจทางจิต การนำเอาวิชาอาคม หรือไสยศาสตร์มาใช้ก็ไม่ได้ผล แต่สำหรับผู้ที่มีพลังอำนาจจิตแล้วจะสามารถนำเอาวิชาเหล่านี้มาใช้ได้ผลเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตำราบอกเอาไว้จริงๆ ในบรรดาวัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่มก็มี "พระขุนแผนดินหน้าตะโพน" อีกอย่างหนึ่งที่เป็นของดีน่าใช้ และราคาก็ไม่แพงด้วย ราคาในการเล่นหาตามสนามทั่วๆ ไปก็อยู่แค่หลักร้อยกลางๆ ถึงหลักร้อยแก่ๆ เท่านั้นเอง แต่เมื่อดูถึงขั้นตอนของวิธีการสร้างแล้วพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มเป็นของดีที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย เหตุที่เรียกพระเครื่องพิมพ์นำหน้าว่า "พระขุนแผน" นั้น ก็เนื่องมาจากหลวงพ่อแช่มท่านสร้างพิมพ์โดยเลียนแบบมาจาก "พระขุนแผนพิมพ์พลายเดี่ยว กรุวัดบ้านกร่าง จ. สุพรรณบุรี" แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ส่วนด้านหลังเป็นยันต์คล้ายตัว "อุณาโลม" กดเป็นร่องลึก ส่วนที่เรียก "ดินหน้าตะโพน" ตามหลังก็เนื่องมาจากว่า หลวงพ่อแช่มท่านนำเอาดินที่ปิดหน้ากลองตะโพนมาสร้าง "ตะโพน" เป็นกลองชนิดหนึ่ง มีลักษณะหัวสอบ ท้ายสอบ ขึงด้วยหนังทั้งสองข้าง มีขารอง ใช้ตีด้วยฝ่ามือ ที่หนังกลองทั้งสองข้างนิยมเอาดินละเอียดกับข้าวสุกมาคลุกให้เข้าด้วยกันแล้วปิดเอาไว้ ซึ่งจะทำให้เมื่อตีแล้วมีเสียงทุ้มไพเราะน่าฟัง ในการละเล่นสมัยก่อนจะมีกลองตะโพนเป็นเครื่องดนตรีประกอบเอาไว้ด้วยเสมอๆ สมัยก่อนดินที่นำมาผสมกับข้าวสุกเพื่อปิดหนังหน้ากลองตะโพนนั้น นิยมเอาไปให้อาจารย์ที่มีความรู้ทางวิชาอาคม ผสมของดีทางเมตตามหานิยม และปลุกเสกให้โดยเชื่อกันว่า เมื่อเอาดินผสมข้าวสุกและของดีและปลุกเสกแล้วมาปิดที่หนังหน้ากลองตะโพน เวลาตีจะทำให้มีเสียงไพเราะทำให้คนได้ยินได้ฟังเกิดความหลงใหล และอยากจะดูการละเล่นนั้นๆ เล่ากันว่า สมัยก่อนเมื่อมีการละเล่นจะต้องมีการบรรเลงเครื่องดนตรีเป็นการโหมโรงก่อน เสียงจากการโหมโรงซึ่งมีเสียงกลองตะโพนประกอบอยู่ด้วยนั้น เมื่อใครได้ยินแล้วจะร้อนรุ่มอยู่บ้านไม่ได้ต้องมาดูการละเล่นนั้นๆ หลวงพ่อแช่มท่านก็มีคนมาขอให้ท่านปลุกเสกดินที่จะนำไปติดที่หน้ากลองตะโพนอยู่เสมอๆ แม้แต่กลองตะโพนใบใหญ่ของวัดตาก้อง หลวงพ่อแช่มท่านก็เอาดินชนิดนี้ไปปิดที่หน้ากลองด้วย ซึ่งกลองใบนี้ทางวัดจะใช้ตีเวลาทางวัดมีงานหรือตรงกับวันพระ พอตีแล้วเสียงกลองนี้จะได้ยินไปไกล ชาวบ้านพอได้ยินเสียงกลองก็จะพากันมาทำบุญที่วัดกันหลายๆ คน แต่ดินที่ใช้ปิดหน้ากลองตะโพนนี้ เมื่อผ่านไปหลายๆ วันก็จะแห้งและแตกหลุดออกมาจะต้องทำใหม่ปิดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านก็รู้ถึงเคล็ดลับทางเมตตามหานิยมของดินหน้าตะโพนชนิดนี้ดี ครั้นเมื่อดินหน้าตะโพนแห้งต้องทำใหม่ ท่านก็จะเก็บของเก่าสะสมเอาไว้เรื่อยๆ จนมีจำนวนมากเพียงพอแล้ว จึงนำเอาดินหน้าตะโพนนั้นมาสร้างเป็นพระเครื่องพิมพ์ขุนแผนโดยหวังอานิสงส์ทางเมตตามหานิยมเป็นหลัก เมื่อได้ดินหน้าตะโพนมาจำนวนมากเพียงพอต่อการสร้างพระเครื่องแล้ว หลวงพ่อแช่มท่านยังได้นำเอามวลสารอีกหายอย่างผสมเข้าไปด้วย ซึ่งก็มี ผงวิเศษ ว่าน ดินอุดรูปู ดินตีนท่า ดินโป่ง ฯลฯ เมื่อคลุกเคล้าเนื้อหามวลสารจนเข้ากันดีแล้ว จึงกดพิมพ์เป็นพระเครื่องโดยมีลูกศิษย์หลายคนช่วยกันกด ระหว่างนั้นก็ตกอยู่ในราว ปี พ.ศ. 2470 กว่า ๆ ว่า ไปแล้วพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มมีการสร้างก่อนเหรียญรูปเหมือนท่านตั้งหลายปี พระเครื่องชุดนี้เมื่อกดพิมพ์เสร็จแล้วก็ได้จำนวนพระเครื่องหลายองค์ คิดว่า เป็นหมื่นๆ องค์ เสร็จแล้วหลวงพ่อแช่มก็ปลุกเสกเดี่ยวก่อนนำแจก เนื่องจากจำนวนของพระเครื่องมีมาก จึงทำให้มีของเหลืออยู่ที่วัดอีกหลายปี เมื่อท่านมรณภาพไปแล้วของก็ยังเหลืออยู่ที่วัด แต่ปัจจุบันของได้กระจัดกระจายไปทั่ว หมดจากวัดนานแล้ว ลักษณะของพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มนั้น จะทำพอเป็นรูปร่าง รายละเอียดไม่ค่อยลึก และคมชัดนัก หย่อนความสวยงามไปบ้าง สีสันวรรณะออกไปทางสีเทาเข้ม ส่วนของปลอมเท่าที่เห็นจะมีขนาดเล็กกว่าของแท้ และรายละเอียดก็จะยิ่งตื้นเบลอกว่าของแท้เสียอีก สีก็ค่อนข้างจาง ถ้าได้เห็นของแท้บ่อยๆ ก็สามารถแยกความแตกต่างได้ไม่ยาก พูดถึงประสบการณ์ของพระขุนแผนดินหน้าตะโพน หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เท่าที่ได้รับฟังมาคือ ดีทางเมตตามหานิยม และมหาเสน่ห์ เป็นหลัก และตามมาด้วยแคล้วคลาดกับคงกระพัน เป็นที่หนึ่ง
...เหรียญสวยเดิม มาพร้อมบัตรรับประกันพระแท้ เช่าหาสบายใจ
ราคาปัจจุบัน
650
จำนวนผู้เข้าชม
1741 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
chathanumaan
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
URL
-
เบอร์โทรศัพท์
0999309839
ID LINE
0853783943
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
2. ธนาคารกสิกรไทย / 744-2-522xx-x
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี